เรียนภาษาญี่ปุ่นแต่ไม่เก่งการฟัง เพราะอะไร? แก้อย่างไรดี?

เคล็ดลับฝึกฟังภาษาญี่ปุ่น

การฟังเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่ต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอสำหรับผู้เรียนภาษา แม้จะเรียนไวยากรณ์และคำศัพท์อย่างจริงจัง แต่ถ้าหากไม่สามารถฟังและเข้าใจคำพูดได้ ก็จะประสบปัญหาในการสื่อสารอย่างแน่นอน ทักษะการฟังจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาความสามารถทางภาษา แต่การฝึกฝนการฟังภาษาญี่ปุ่นให้ชำนาญนั้นเป็นเรื่องท้าทายไม่น้อยสำหรับผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นระดับต้น หรือผู้เรียนที่เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเอง วันนี้ NOVA ONLINE ขอพาผู้อ่านทุกไปดูสาเหตุและแนะนำวิธีฝึกการฟังภาษาญี่ปุ่นอย่างมีประสิทธิภาพในบทความนี้กันค่ะ

หัวข้อที่น่าสนใจในบทความนี้

ทำไมการฝึกฟังภาษาญี่ปุ่นจึงเป็นเรื่องยาก?

ความแตกต่างของระบบเสียง

ระบบเสียงที่แตกต่าง

ปัญหาสำคัญที่ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นมักประสบ คือระบบเสียงและจังหวะของภาษาแตกต่างจากภาษาแม่ของตนมาก จึงทำให้หูของผู้เรียนนั้นยังไม่คุ้นเคยกับการแยกแยะและจดจำเสียงต่าง ๆ ได้ดีพอ ภาษาญี่ปุ่นมีเสียงพยัญชนะและสระที่หลากหลาย บางเสียงไม่มีในภาษาไทย จึงทำให้การฟังยากขึ้น นอกจากนี้ การลงเสียงหนักเบาและทำนองก็แตกต่างจากภาษาไทยอย่างสิ้นเชิง ทำให้หูที่ไม่คุ้นชินจะรับรู้และแยกแยะได้ยาก

ความเร็วในการพูด

ฟังภาษาญี่ปุ่นจากเจ้าของภาษา

ปัญหาอีกประการคือ คนญี่ปุ่นมักพูดค่อนข้างเร็ว ประกอบกับแต่ละภูมิภาคของญี่ปุ่นมีสำเนียงท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เป็นการยากที่จะจับใจความสำคัญจากการฟัง เนื่องจากต้องแยกคำออกจากกันอย่างรวดเร็ว หากไม่คุ้นเคยกับลักษณะการเชื่อมคำหรือการละเสียงบางตัวในภาษาญี่ปุ่นก็จะยิ่งทำให้สับสนมากขึ้น ดังนั้นแม้จะจดจำคำศัพท์ได้มากมายแค่ไหน แต่หากฟังไม่ออกก็ไม่สามารถเข้าใจความหมายโดยรวมได้

ขาดประสบการณ์ในการฟังภาษาญี่ปุ่นจริง

ประสบการณ์การฟังภาษาญี่ปุ่น

ปัญหาอีกประการหนึ่งคือผู้เรียนมักจะได้รับโอกาสในการฟังภาษาญี่ปุ่นจากเจ้าของภาษาน้อยเกินไป ส่วนใหญ่มักฝึกฟังจากสื่อการสอนมากกว่า ซึ่งอาจมีลักษณะแตกต่างจากการฟังคนพูดจริง เช่นการพูดช้ากว่าปกติ หรือออกเสียงได้ชัดเจนกว่า ทำให้ประสบการณ์ในการฟังภาษาในสถานการณ์จริงยังไม่เพียงพอ

ข้อแนะนำเพื่อพัฒนาทักษะการฟังภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเอง

ฝึกภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

มีหลายวิธีที่ผู้เรียนสามารถนำมาใช้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังภาษาญี่ปุ่นด้วยตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรับฟังสื่อภาษาญี่ปุ่นจากหลากหลายช่องทาง เช่น รายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และเพลงญี่ปุ่นอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้หูคุ้นเคยกับเสียงและจังหวะการพูดภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น อีกทั้งการได้ยินคำพูดจากเจ้าของภาษาจริง ๆ จะทำให้สามารถจดจำเสียงและรูปประโยคได้ดียิ่งขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกหากยังรู้สึกว่าฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่ควรรู้สึกท้อแท้ไปก่อน แต่ควรเริ่มจากบทเรียนระดับง่ายก่อนจะดีกว่า เช่น รายการสำหรับเด็ก หรือการ์ตูนอนิเมชั่น เพราะจะมีการใช้คำศัพท์ง่าย ๆ พูดช้าและชัดเจนกว่า เมื่อหูเริ่มคุ้นกับภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นแล้วจึงค่อยก้าวไปฟังสื่อที่มีระดับความยากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้หูของเราคุ้นเคยกับการฟังคำศัพท์ใหม่ ๆ ในภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น หรือลองดูสื่อที่มีคำบรรยาย (ซับ) ภาษาญี่ปุ่น จะทำให้สามารถศึกษาทั้งการออกเสียง และคำต่าง ๆ ควบคู่กันไปช่วยให้จดจำได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

การฝึกพูด ก็ช่วยให้ทักษะการฟังดีขึ้นได้

ฝึกพูดภาษาญี่ปุ่นเยอะๆ

การฝึกพูดตามจะช่วยให้คุ้นเคยกับการเว้นจังหวะ การลงเสียงหนักเบา รวมถึงเรียนรู้วิธีการเชื่อมเสียงและคำต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างถูกต้อง ยิ่งฝึกบ่อยเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยบันทึกเสียงเหล่านั้นไว้ในสมองของเราได้มากเท่านั้น

สิ่งสำคัญอีกประการคือ ไม่ควรท้อแท้หรือหมดกำลังใจง่าย ๆ เมื่อพบประโยคหรือศัพท์ยาก ควรฝึกฟังซ้ำหลาย ๆ รอบจนกว่าจะเข้าใจ ความอดทนและพยายามอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ เพราะการฝึกฟังโดยขาดความอดทนและหมดกำลังใจไปก่อนง่าย ๆ จะขัดขวางการพัฒนาทักษะทางภาษาของเราได้ การพยายามอย่างต่อเนื่องและเพิ่มระดับความท้าทายขึ้นทีละเล็กน้อย ค่อยเป็นค่อยไปนั้นจะมีประสิทธิภาพมากกว่า

การฝึกพูดคุยกับเพื่อนหรือเจ้าของภาษาญี่ปุ่นก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาทักษะการฟังได้เป็นอย่างดี นับเป็นโอกาสในการฟังสำเนียงจริงจากคนแต่ละภูมิภาค ได้เรียนรู้การใช้ภาษาในสถานการณ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยให้เกิดปฏิสัมพันธ์ ซึ่งจะส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นให้ดียิ่งขึ้น แม้ในระยะแรกจะเข้าใจไม่หมดทุกคำที่พูด แต่การได้ฝึกฟัง-พูดบ่อย ๆ ก็จะทำให้หูของเราคุ้นกับภาษาญี่ปุ่นมากกว่าเดิมแน่นอน

ความรู้ด้านไวยากรณ์เป็นสิ่งจำเป็น

ฝึกไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่น

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่นให้ดี เมื่อคุณมีพื้นฐานไวยากรณ์ที่ดี จะทำให้สามารถจับประเด็นและเข้าใจสิ่งที่ฟังได้ง่ายยิ่งขึ้น โครงสร้างประโยคของภาษาญี่ปุ่นมีความแตกต่างจากภาษาอื่น ๆ ค่อนข้างมาก ดังนั้นหากมีความรู้ความเข้าใจในหลักไวยากรณ์ จะช่วยให้การฟังเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นนะ

แน่นอนว่า ทางลัดสู่การฟังภาษาญี่ปุ่นให้เก่งไม่มีจริง สิ่งสำคัญที่สุดคือความอดทนและการฝึกฝนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง หากผู้เรียนสามารถแบ่งเวลาในการฝึกฟังอย่างสม่ำเสมอ และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา แม้ในช่วงแรกจะเผชิญอุปสรรคหลายข้อ แต่หูของคุณจะค่อย ๆ คุ้นเคยกับเสียงและจังหวะการพูดมากขึ้นเรื่อย ๆ คำศัพท์ต่าง ๆ ก็จะพุ่งเข้ามาอยู่ในหูโดยอัตโนมัติ และในที่สุดทักษะการฟังของคุณก็จะก้าวหน้าขึ้น สามารถเข้าใจคำพูดภาษาญี่ปุ่นได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

กำลังใจสำคัญที่สุด

กำลังใจในการเรียนภาษา

สำหรับผู้ที่กำลังฝึกฝนภาษาญี่ปุ่นอยู่ อย่าเพิ่งท้อถอยและอย่าหมดกำลังใจไปนะ! การฝึกฝนทักษะการฟังเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคน แต่หากคุณมีความมุ่งมั่น อดทน และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ คุณจะสามารถพัฒนาขึ้นได้แน่นอน ความสำเร็จนั้นมาจากการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค และการตั้งใจฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงวันหนึ่ง คุณจะรู้สึกได้ถึงความก้าวหน้าและภาคภูมิใจในทักษะภาษาญี่ปุ่นตัวเอง

หากใครกำลังมองหาที่เรียนภาษาญี่ปุ่น ลองมาฝึกภาษากับ NOVA ONLINE สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ที่นี่มีหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นที่หลากหลายตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับกลาง มีเนื้อหาที่ทันสมัยและได้รับการออกแบบอย่างดีเพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทั้งการฟัง พูด และได้คำศัพท์ ไวยากรณ์ไปใช้จริง โดยมีครูผู้สอนที่เป็นคนญี่ปุ่นจริง ๆ คอยดูแลแนะนำตลอดหลักสูตร สอนให้พูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยค่าเล่าเรียนที่เหมาะสม เรียกได้ว่า NOVA ONLINE เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากฝึกการสนทนาภาษาญี่ปุ่นกับเจ้าของภาษามาก ๆ เลยละค่ะ

ทำไมต้อง NOVA ONLINE ?

  • สถาบันระดับ TOP ของญี่ปุ่น ปรับหลักสูตรเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ
  • คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่น เรียนสดกับครูคนญี่ปุ่นแท้ ๆ ได้เรียนรู้สำเนียงควบคู่วัฒนธรรม
  • คอร์สอังกฤษสอนโดย Professional Teacher ที่คัดเลือกและอบรมมาอย่างดี
  • มีทีมงานพร้อมให้คำแนะนำ พัฒนาภาษาอังกฤษ-ภาษาญี่ปุ่นได้ตรงจุด
  • คอร์สเรียนออนไลน์ สะดวก เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา
  • เลือกคอร์สให้ตอบโจทย์ได้ตามไลฟ์สไตล์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม