5 เพลงสากลสุดฮิต ฟังเพลินแถมได้ภาษา

5 เพลงสากลสุดฮิต ฟังเพลินแถมได้ภาษา

ใครจะไปคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษผ่านเสียงเพลงเป็นวิธีที่สนุกและสามารถทำให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้มากขึ้นจริง! เพราะเพลงสากลมักมีคำศัพท์และสำนวนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจและคุ้นชินกับภาษาได้ดีขึ้น นอกจากจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ แล้ว ยังช่วยฝึกการออกเสียงและการฟังได้อย่างดีเลยทีเดียว

วันนี้เรามาดูกันว่า 5 เพลงสากลที่ไม่ใช่แค่ฟังสนุก แต่ยังมีสาระซ่อนอยู่ จะมีเพลงอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

1. BIRDS OF A FEATHER – Billie Eilish

เพลงแรกที่จะแนะนำคือเพลง Birds of a Feather จากศิลปินสาวมากความสามรถ Billie Eilish

เพลงที่ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘ความรัก’ และ ‘ความซื่อสัตย์’ ที่ไม่มีวันตาย การอยู่เคียงข้างกันทั้งในยามทุกข์และยามสุข รวมถึงการยอมสิ้นลมหายใจหากชีวิตนี้ปราศจากคนรัก ซึ่งสำนวน ‘birds of a Feather’ แปลว่า นกที่มีลักษณะขนเหมือนกัน หรือนกในฝูงเดียวกัน สามารถแปลไปอีกความหมายหนึ่งที่ว่า คนที่มีความสนใจและค่านิยมคล้ายคลึงกันจะดึงดูดเข้าหากัน ซึ่งเนื้อเพลงพยายามสื่อว่าความรักระหว่างคนสองคน ไม่ใช่แรงดึงดูดที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ทว่าเป็นสายสัมพันธ์ที่หยั่งรากลึกและความรู้สึกที่เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันนั้นเอง มาดูกันดีกว่าว่ามีท่อนไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

“And if I’m turning blue, please don’t save me (หากฉันโศกเศร้า ได้โปรดอย่าเข้ามาช่วยฉันเลย)
Nothing left to lose without my baby (ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียไปมากกว่าการสูญเสียสุดที่รักของฉันไปอีกแล้ว)”

“Birds of a feather, we should stick together (เพราะเราคือคนแบบเดียวกัน เราจึงควรอยู่ด้วยกัน)
I know I said I’d never think I wasn’t better alone (อย่างที่ฉันเคยพูด ฉันไม่มีวันคิดว่าฉันอยู่ตัวคนเดียวดีกว่า)”

เป็นยังไงบ้าง แค่เพลงแรกก็หวานกินใจสุด ๆ แต่อย่าลืมไปฟังเพลงเต็มและฝึกร้องออกเสียงตามพร้อมแปลไปด้วยละ

2. Die With A Smile – Lady Gaga, Bruno Mars

มากันต่อกับเพลงรักในเพลง Die With A Smile หลาย ๆ ท่อนของเพลงนี้มักพูดถึงการแสดงความรักต่อคนที่เรารัก ราวกับว่าเป็นคืนสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกัน และถ้าหากความตายมาถึงก็ขอตายไปพร้อมกับรอยยิ้มเคียงข้างกับคนที่รัก เพลงนี้จึงสามารถสื่อความหมายออกมาทำให้ทุกคนที่ฟังเก็บเกี่ยวช่วงเวลาดี ๆ กับคนที่เรารักในตอนที่ยังเวลา เพราะเราไม่มีทางรู้ได้แน่ชัดว่า วันพรุ่งนี้จะยังมีกันและกันหรือไม่ ไปดูกันว่าท่อนไหนที่หวานกินใจที่สุดกันดีกว่า

“If the world was ending (หากโลกนี้แหลกสลายไป)
I’d wanna be next to you (ฉันก็อยากจะไปอยู่เคียงข้างคุณนะ)”

“Cause you already know what you mean to me (เพราะคุณรู้ดีว่าคุณมีความหมายกับฉันขนาดไหน)
And our love’s the only one worth fighting for (และความรักของเรามันเป็นความรักเดียวที่มีค่ามากพอให้ต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา)”

3. Espresso – Sabrina Carpenter

เพลงนี้ไม่ได้แปลว่ากาแฟเอสเพรสโซ่ แต่สาว Sabrina ได้เปรียบเทียบความรักที่ทำให้มีความรู้สึกหวั่นไหวและลุ่มหลงเหมือนกับกาแฟเอสเพรสโซ่ กาแฟแก้วโปรดของใครหลายคนที่มีรสชาติเข้มข้น ที่จะทำให้คุณมีความกระปรี้กระเปร่า ซึ่งเป็นการใช้คำพังเพยเปรียบเปรยถึงความรักครั้งใหม่ที่น่าตื่นเต้น ชวนให้เสพติด ทำให้คนนอนไม่หลับ เพราะเอาแต่คิดถึงเธอนั่นเอง! มีหลายท่อนที่ทั้งแซ่บเผ็ดร้อนและน่ารักให้เวลาเดียวกัน ไปดูกันเลยว่าท่อนไหนบ้าง

“Now he’s thinkin’ ’bout me every night, oh (แล้วตอนนี้เขาก็คิดถึงฉันทุกค่ำคืน โอ้)
Is it that sweet? I guess so (มันหวานซึ้งเลยใช่ไหมล่ะ ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะ)”

“I know I Mountain Dew it for ya (ฉันรู้ว่าฉันเป็นดั่งเครื่องดื่มเติมพลังให้มีชีวิตชีวาเพื่อคุณ)
That morning coffee, brewed it for ya (เป็นกาแฟยามเช้า ชงให้คุณได้รู้สึกตื่นเต้น)
One touch and I brand-newed it for ya (เพียงสัมผัสเดียวก็ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นไปตลอดทั้งวันเลยละ)”

4. We can’t be friends (wait for your love)-Ariana Grande

สำหรับคนอกหักที่อยากจะหาเพลงสากลฟังไปน้ำตาร่วงไป ขอแนะนำเพลง we can’t be friends (wait for your love) ที่มาพร้อมเสียงสุดละมุนของสาว Ariana Grande แต่ทำให้เจ็บปวดทุกครั้งที่ฟัง

เนื้อเพลงเล่าถึงความเจ็บปวดที่แสนงดงาม กับการรอคอยความรักให้หวนคืนกลับมาอีกครั้ง อีกทั้งยังแฝงไปด้วยประโยคและสำนวนภาษาอังกฤษมากมายที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ไปดูกันเลย

“We can’t be friends (เราไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้)
But I’d like to just pretend (แต่ฉันจะแกล้งทำว่ายังเป็นเพื่อนกันได้)
You cling to your papers and pens (คุณกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องงานและกิจกรรมของคุณ)
Wait until you like me again (จะรอจนกว่าคุณจะกลับมาชอบฉันอีกครั้งนะ)”

“I don’t wanna tiptoe, but I don’t wanna hide (ฉันไม่อยากต้องคอยปกปิดและระมัดระวังความรู้สึกมากจนเกินไป)
But I don’t wanna feed this monstrous fire (แต่ฉันก็ไม่อยากสานต่อความสัมพันธ์ที่จะมีแต่ปัญหาอีกต่อไป)”

5. All Too Well-Taylor Swift

มาต่อกันกับเพลง All Too Well จากศิลปินเพลง Pop ที่ไม่รู้จักไม่ได้ Taylor Swift หากใครฟังเพลงนี้หลังจากอกหักใหม่ ๆ แล้วไม่มีน้ำตา คุณเป็นคนที่เข้มแข็งคนหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเนื้อเพลงนั้นแสนเศร้าจนยากจะกลั้นน้ำตาไว้ได้ ความหมายของเพลงพูดถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ของคู่รัก ตั้งแต่เริ่มรักกันจนถึงวันที่ความสัมพันธ์จบลง รวมถึงประเด็นเรื่อง ‘Toxic relationship’ ที่ถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ๆ จนรู้สึกว่าเวลา 15 นาทีนี้มันสั้นเกินไปด้วยซ้ำ! เรียกได้ว่าหากใครอยากฝึกแปลฝึกออกเสียงจากเพลงนี้ คุณจะได้คำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ ๆ หรือสำนวนที่คุณไม่เคยรู้เพิ่มแน่นอน

“Maybe we got lost in translation (บางทีเราอาจจะสื่อสารกันไม่มากพอ)
Maybe I asked for too much (บางทีสิ่งที่ฉันขอมันมากเกินไป)”

“You kept me like a secret but I kept you like an oath (นายเก็บฉันไว้ในความลับ แต่ฉันเก็บนายไว้ในคำสาบาน)
Sacred prayer, and we’d swear (ฉันภาวนาถึงมัน และเราให้คำสาบานต่อกัน)
To remember it all too well, yeah (ฉันจำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น ได้ดีเกินไป)”

วิธีต่อยอดภาษาอังกฤษจากการฟังเพลงสากลคือการนำไปใช้จริง

วิธีต่อยอดภาษาอังกฤษจากการฟังเพลงสากลคือการนำไปใช้จริง

การฟังเพลงสากลเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ แต่ถ้าคุณมีคำถามเกี่ยวกับเพลงหรือไม่เข้าใจในคำแปล คงจะดีหากคุณมีอาจารย์ที่ในคำแนะนำเพื่อเพิ่มพูนความรู้และฝึกภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบให้กับคุณได้ NOVA ONLINE ช่วยคุณได้! เราคือสถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่มีหลักสูตรหลากหลายไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารหรือภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ ที่ผู้เรียนจะได้ฝึกทั้งการฟัง พูด และการอ่าน พร้อมเรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญ พร้อมจะช่วยคุณพัฒนาภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นทุกวันอย่างแน่นอน!

ทำไมต้อง NOVA ONLINE ?

  • สถาบันระดับ TOP ของญี่ปุ่น ปรับหลักสูตรเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ
  • สอนโดย Professional Teacher คัดเลือกและอบรมอย่างดี
  • พร้อมให้คำแนะนำ พัฒนาภาษาอังกฤษได้ตรงจุด
  • คอร์สเรียนออนไลน์ สะดวก เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา
  • เลือกคอร์สให้ตอบโจทย์ได้ตามไลฟ์สไตล์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม